ภาพยนตร์สุดฮอตเรื่องใหม่จากฝีมือผู้กำกับคุณภาพอย่าง "บรรจง ปิสัญธนะกูล" จากภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง "ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ" , "กวน มึน โฮ" , "แฝด" และล่าสุดกับ"พี่มาก...พระโขนง" ที่ได้ทำปรากฏการณ์ภาพยนตร์ไทยที่มีรายรับในประเทศทะลุสี่ร้อยล้านบาทไปเรียบร้อย ซึ่งตามความเป็นจริงนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีภาพยนตร์ที่สามารถทำรายรับได้เกินหนึ่งร้อยล้าน แต่พี่มากพระโขนงนั้นได้กลายเป็น1ใน5เรื่องของภาพยนตร์ไทยที่สามารถทำรายรับในประเทศได้เกินสองร้อยล้านบาท
สำหรับพี่มาก...พระโขนงนี้ ได้หยิบเอาเรื่องราวตำนานความรักของ "แม่นาค" มาตีความในมุมมองของ "นายมาก" ชายผู้เป็นสามีของแม่นาค ผ่านความเป็นดราม่าคอมเมดี้ของตัวภาพยนตร์
หากถามว่า ทำไมภาพยนตร์ "พี่มาก...พระโขนง" จึงประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดที่เรียกได้ว่า "เทน้ำเทท่า"เช่นนี้ เราคงมองได้ถึงหลายองค์ประกอบที่ช่วยส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ยอดรายรับที่บินทะลุเป้า
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความนิยมในผู้กำกับที่มีชื่อจากภาพยนตร์ดังหลายเรื่องก่อนหน้านี้ บวกกับการเขียนบทของ"เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี" ที่มีเครดิตจาก"กวน มึน โฮ" มาก่อน
อีกเรื่อง คือตำนานความเป็นอมตะอยู่คู่กับคนไทยมานานของ "แม่นาคพระโขนง" ที่ถูกเล่าขานกันปากต่อปาก ถึงความน่ากลัวและความมั่นคงในความรักของแม่นาค จนมีผู้นำมาทำเป็นภาพยนตร์ ละครทีวี และละครเวทีอยู่หลายต่อหลายครั้ง เรียกได้ว่าแทบทุกปีจะต้องมีเรื่องราวของแม่นาคมาสร้างใหม่ให้เราได้ชมกันอยู่ตลอด และยังได้รับความสนใจจากผู้ชมมากมายทุกๆครั้ง จึงไม่แปลกที่ "พี่มากพระโขนง" ซึ่งนำตำนานของแม่นาคมาถ่ายทอดในอีกมุมมองจะได้รับความสนใจจากผู้ที่เคยได้ยินเรื่องราวของแม่นาคมาก่อน และการเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก"แม่นาค" เป็น "พี่มาก" ย่อมดึงดูดความสนใจและสร้างความคาดหวังในตัวเรื่องมากขึ้น
ช่วงเวลาเข้าฉายของพี่มากฯ เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่เหมาะเจาะกับที่ไม่มีภาพยนตร์เฮฮาคลายเคลียดเรื่องอื่นทั้งไทยและเทศเข้าฉาย ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา นอกจากภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่น และภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญแล้ว แทบจะยังไม่มีภาพยนตร์ตลกที่ทำเบาสมองเข้าฉายเลย การที่พี่มากฯมาเข้าฉายช่วงปลายเดือนมีนาฯ ยังเป็นช่วงที่ "ไร้คู่แข่ง" นอกจากจะเป็นช่วงที่คนกำลังต้องการดูอะไรที่ผ่อนคลายความเครียดแล้ว ยังเป็นช่วงที่กลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่อยู่ในช่วงปิดเทอม ทั้งมัธยมฯและมหาวิทยาลัย บวกกับความนิยมของชาวไทยที่ชอบดูสิ่งนันทนาการแนวตลกเบาสมอง พี่มากฯ จึงเป็นทางเลือกหมายเลขหนึ่งสำหรับคนที่กำลังมองหาภาพยนตร์เข้าใหม่ในช่วงนี้
อีกทั้งในทศวรรษ2010นี้ พระเอกหนุ่มลูกครึ่งไทย-เยอรมันอย่าง"มาริโอ้ เมาเร่อ"ได้เป็นพระเอกในอันดับต้นๆของวงการภาพยนตร์ไทยไปแล้ว ใน1ปี จะต้องมีภาพยนตร์ที่หนุ่มโอ้นำแสดงเข้าฉายไม่ต่ำกว่า2เรื่อง ที่ผ่านมาภาพยนตร์ที่เขาแสดงต่างประสบความสำเร็จอย่างสวยงามหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น "รักแห่งสยาม" "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า...รัก" และ "จัน ดารา" แถมกลุ่มแฟนคลับของนายมาริโอ้เองก็ไม่ใช่กลุ่มเล็กๆ ทางด้านนางเอกสุดสวยอย่าง "ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่" ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น อีกทั้งเป็นช่วงที่สาวใหม่กำลังงานชุก แม้จะมีข่าวไม่เว้นแต่ละวัน แต่สาวใหม่ก็ยังมีผู้ติดตามชื่นชอบมากมาย ตัวพระนางคู่นี้จึงเป็นหนึ่งแรงดึงดูดผู้ชมในการซื้อตั๋วเข้าชม
นอกจากเนื้อหาในเรื่องจะมีมุขมากมายที่ถูกใจคนดูแล้ว หนังยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย ไม่เพียงแค่เป็นการเรื่องเก่ามาเล่าใหม่อย่างไม่น่าเบื่อ แต่ยังเป็นการเอาเรื่องเก่ามาเล่าในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และตอนจบของเรื่องยังถูกใจคนไทยส่วนใหญ่ที่ชอบเรื่องราวที่จบแบบมีความสุข
หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาด ถึงขนาดมีผู้ที่ดูแล้วเลือกเข้าไปดูหนังอีกหลายรอบ และยังมีผู้ที่นานนานครั้งจะเข้าโรงภาพยนตร์ หลังจากได้ยินคำนิยมจากนักวิจารณ์และนักดูหนังหลายๆคน พี่มากฯจึงเป็นสิ่งที่ตัดสินใจให้ผู้ชมเข้าไปชม และเป็นตัวอธิบายว่า ทำไมหนังเรื่องนี้เข้าโรงมากว่า2สัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังมีผู้ชมเข้าไปนั่งดูอยู่เต็มโรง เหตุผลเล็กๆอีกเรื่อง (เขียนเมื่อวันที่8เม.ษ 56)
ป.ล ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว