วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ความคิดที่แตกต่างของเจ้าหญิงผมแดงกับพระราชินี
หากเอ่ยถึงตัวการ์ตูนแอนนิเมชั่นที่มีผมหยิกสีแดง ตัวการ์ตูนที่ทุกคนนึกถึงก่อนใครเพื่อนคงหนีไม่พ้นMeridaจากภาพยนตร์แอนนิเมชั่นต้นปี2012จากค่ายDisney Pixar ที่ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลภาพยนตร์แอนนิเมชันยอดเยี่ยมจากเวทีใหญ่อย่างBAFTA Awards และ Golden Globe Awards
เรื่องราวของเจ้าหญิงMerida เจ้าหญิงจอมลุยผู้รักการยิงธนูที่มีความเห็นไม่ตรงกับพระมารดา Elinor(ต่อไปจะเรียกแทนว่า "แม่")อยู่เสมอๆ พระราชินีผู้รักความมีระเบียบ รักประเพณีเดิมๆ ไม่ชอบการประพฤตินอกกรอบ ตัวเจ้าหญิงผมแดงผู้รักการผจญภัย กับพระมารดาผู้รักความเรียบร้อยจึงไม่ค่อยลงรอยกันเท่าใดนัก
เรื่องราวของทั้งคู่เดินมาถึงขั้นแตกหัก เมื่อMeridaถึงวัยที่ควรสมรสเสียที พระราชินีจึงจัดหาคู่ครองที่เหมาะสมให้เธอตามธรรมเนียม เพื่อความก้าวหน้าของประเทศ
ตามสไตล์ของหนังก็คงจะพอเดาได้ว่า Meridaไม่มีวันยอมทำตามอย่างแน่นอน เธอจึงทำทุกวิถีทางให้่แม่เปลี่ยนใจ
โชคชะตาดูจะเริ่มเข้าข้าง เมื่อMeridaพบเข้ากับแม่มดแก่ที่มียาวิเศษสามารถทำให้แม่เปลี่ยนใจเลิกล้มการแต่งงานครั้งนี้ได้
แต่คราวนี้โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อแม่ของเธอไม่เพียงไม่เปลี่ยนใจแต่ยังดันกลายเป็นหมีตัวยักษ์ที่พูดอะไรไม่ได้สักคำ
ประโยคหนึ่งที่ยังจำได้ไม่ลืม คำพูดของแม่มดแก่ที่ว่า ทางเดียวที่จะแก้คำสาบได้คือ "สานสายใยที่ขาดวิ่น" แม่ก็จะกลับมาเป็นคนเช่นเดิม
"สายใย"นั้นคืออะไรกันแน่? ใช่การเย็บผ้าปักของครอบครัวที่ขาดให้เหมือนเดิมหรือไม่ จะทำอย่างไรให้แม่กลับมาเป็นเช่นเดิม หรืออีกทางปล่อยให้แม่เป็นหมีต่อไป เพื่อที่จะได้เป็นอิสระทำตามใจตนเองเสียที
แท้จริงแล้วสายใยที่แม่มดแก่ได้กล่าวไว้คือ ความผูกพันในครอบครัวที่ควรจะมีนั่นเอง แม้เธอจะเย็บผ้าที่ขาดจนเสร็จ รักษาภาพที่ขาดให้ดูดีดังเดิม แต่สายใยแห่งความรักก็ยังไม่กลับคืนมาอยู่ดี
เนื้อเรื่องBraveอาจไม่ดีเด่นและไม่สมบูรณ์แบบนัก ส่วนตัวคิดว่า การแต่งงานของMerida อาจดูไกลตัวเกินไป และความสำคัญของมอร์ดู เจ้าหมีตัวร้ายยังน้อยไปกว่าที่ควร แต่สิ่งเดียวที่หนักแน่นชัดเจนสำหรับ หนังคือประเด็นของเรื่องที่สามารถนำมาปรับใช้ในสังคมปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม
ความขัดแย้งระหว่างMerida กับ Elinor นั้นเป็นความขัดแย้งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว มั่นใจได้เลยว่าหากสอบถามจาก100ครอบครัว จะต้องมีเกิน60ครอบครัวที่พ่อแม่กับลูกเคยทะเลาะกัน ทุกครอบครัวพ่อแม่คงจะมีมุมมองแตกต่างกับลูก อยากให้ลูกทำเช่นนั้นเช่นนี้ตามที่ได้วางแผนไว้ ส่วนลูกเองเข้าใจว่าในช่วงวัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการอิสระ กำลังหาความเป็นตัวเอง ยิ่งเด็กสมัยใหม่คงไม่ต้องการให้ใครมาบังคับด้วยแล้ว จึงเกิดการหนีออกจากบ้าน อาการเก็บกด และอาการโรคจิตของเด็กนั่นเอง
ปัญหาครอบครัวนี้หากไม่รีบแก้ จะกลายเป็นมะเร็งเรื้อรังที่ไม่น่าเกิดขึ้นในสถาบันครอบครัวได้เลย หากคนในครอบครัวหันหน้าเข้าหากัน ลดทิฐิลงบ้างเสียนิด ครอบครัวคงจะมีความสุข
Braveเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงปัญหาครอบครัวที่ได้กล่าวมาอย่างชัดเจน เนื้อหาที่แสดงออกในรูปแบบการ์ตูนย่อมสื่อสารกับเด็กๆได้ดีกว่าการสั่งสอนแบบดุด่าว่ากล่าว ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว แม่ของMeridaไม่ได้รักเธอน้อยลงไปเลย แต่เป็นเพียงความรักและความหวังดีที่แสดงออกได้ไม่ดีนัก
ถ้าหากถามพ่อแม่ทุกคนว่า การสั่งและการบังคับที่กระทำกับลูกนั้นหวังดีหรือร้าย รักหรือเกลียด? คงจะได้คำตอบมาในทางที่ตรงข้ามกับการกระทำแน่นอน
ป.ล ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว